Saturday, 20 August 2022

เถ้ากระดูกเดินทางไกล (9)

บ้านน้องชาย

ถึงว่าเราจะไม่ได้คุยกันแล้ว แต่อดีตเมียน้องชายเราต้องเป็นตัวปั่นป่วนให้ได้
หลังจากทาง รพ มอบส่งศพน้องเราให้พวกเรา
ฝ่ายโทนี่บอกผ่านทางทนาย ว่าเค้าอยากตั้งงานศพให้น้องเราที่ริมชายหาด หน้าบ้านเค้า
แล้วก็ชวนพวกเพื่อนพ้องและญาติไปรวมตัวกันที่นั้น ซึ่งพวกเราต่อต้าน
เราคุยกับบริษัทรับจัดงานศพแถวนั้นว่าจะทำอะไรดีในเคสที่ทั้งสองครอบครัวที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน
เค้าเล่าให้ฟังว่า เคยมีเคสแบบนี้มาก่อน ที่ฝ่ายหนึ่งจ้างให้เค้าจัดประกอบพิธีฌาปนกิจศพ
แต่พอรับรู้ อีกฝ่ายซึ่งอยากตั้งงานศพของเค้าเอง บุกเข้าสถานที่และแย่งยึดเอาศพไปก่อนงานศพเสร็จ
เค้าแนะให้เราจัดงานเงียบๆโดยไม่แจ้งหรือชวนใคร
จากนั้นพอถึงนัดงานเผาศพ เรารวมตัวกันที่ funeral home นั้น
และค่อยทยอยเดินไปมองศพน้องเราที่ตั้งไว้ในห้องรับแขกหลังผ้าม่าน ที่ละคนเพื่อบอกลาก่อนน้องเราจนเสร็จ
จบแล้วเรานั่งในห้องรับแขกมองดูโลงศพน้องเราถูกเอาเข้าเตาเผา
ตามคำแนะทาง funeral home เราไม่ได้ชวนใครให้ร่วมงานนอกจากครอบครัวเราเอง
แน่นอนฝ่ายโทนี่ไม่พอใจที่เราทำกันแบบนี้
ในเวลาต่อมา โทนี่บ่นกับทางทนายว่า ลูกๆของน้องเราไม่มีที่ไว้อาลัยพ่อเค้า (แต่เค้ายังจัดงานไว้อาลัยส่วนตัวที่บ้านโดยไม่มีศพ)
ซึ่งก็จริง แต่พ่อแม่เราใจบุญดี ไม่ได้ลืมลูกหลานหรอก
เค้าให้ทางบริษัทรับจัดงานศพนั้น แบ่งแยกเถ้ากระดูกเป็นคนละส่วนกัน ส่วนหนึ่งเราจะเก็บจัดแบ่งแยกต่อกันเองในครอบครัวของเรา คนละชุด อีกส่วนหนึ่งเราจะเก็บเอาไว้ให้ลูกๆของน้องเรา ซึ่งพ่อแม่กะว่าจะมอบส่งให้ด้วยมือเค้าเอง หลังจากลูกหลานนั้นโตพอที่จะเค้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
-
ต่อจากงานศพนั้น
ทั้งสองฝ่ายเริ่มเจราจากันเรื่งมรดกน้องเรา
น่าเสียดายที่พินัยกรรมของน้อง ไม่ระบุว่าเราต้องจัดการกับเถ้กระดูกเค้ายังไง
เพราะอีโทนี่ถือโอกาสนี้ไปต่อรองเรื่องให้ยืดยาดเป็นอีกหลายปี
โดยโทนี่ถือเอาเรื่องเถ้ากระดูกให้เป็นเรื่องใหญ่ในการเจราจา
เค้าเรียกร้องขอให้เก็บเถ้ากระดูกน้องเราไว้ที่ australia ก่อน
ลูกหลานเราจะได้ไปสถานที่จัดเก็บโกศเถ้ากระดูกนี้เพื่อรำลึกนึกถึงพ่อเค้าได้
เราไม่ยอมเพราะพวกเราส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ new zealand เกือบหมด
นอกนั้นก็มีเรื่องที่ พ่อแม่เราอยากได้เจอหลานๆ บ้างแล้วก็มอบส่งเถ้ากระดูกไปเอง
แต่โทนี่ปฏิเสธคำร้องของเราไป
โดยยืนกรานว่า พ่อแม่ต้องฝากเถ้ากระดูกส่วนของให้ลูกเค้านั้น ไว้ที่สถานที่ปลงศพใกล้บ้านเค้า และห้ามไปติดต่อลูกๆเค้าอีก
พ่อแม่เสียใจ เพราะรักลูกเดวิดมาก และอยากได้กอดลูกหลานด้วยอีกบ้าง
ลูกหลานสามคนนี้เป็นร่องรอยเชื้อสายสุดท้าย ของเดวิด ที่ยังอยู่บนโลกนี้
แต่อีโทนี่ อดีตลูกสะใภ้ใจดำไม่ยอมให้พบเจอ
การเจราจากันเรื่องแบ่งแยกมรดกระหว่างโทนี่กับทรัสต์นั้น ใช้เวลา 4.5 ปีถึงสำเร็จ
ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับเถ้ากระดูกเป็นข้อขัดแย้งกันอันสุดท้ายที่ทั้งสองฝ่ายต่างต้องสู้กันก่อนจบ
โทนี่ขู่ว่าถ้าเราไม่ยอมอ่อนข้อ เค้าจะเอาเรื่องขึ้นในศาลครอบครัเลย และเรียกพ่อแม่เรามาเป็นพยาน
เค้าเลื่อนเวลาออกไปถึงสามวันสุดท้ายก่อนกำหนดเวลาขึ้นศาลเป็นเฮียริง
น้องสาวพร้อมทนาย ต้องยอมอ่อนข้อให้เค้าเพราะไม่อยากขึ้นศาล
โดยทิ้งข้อเสนอของฝ่ายเราว่าจะส่งเถ้ากระดูกให้ลูกเค้าเอง
และให้พ่อแม่ฝากทิ้งเถ้ากระดูกไว้กับสถานที่ปลงศพที่โทนี่เลือก
ทนายที่จัดการเรื่องบอกพ่อแม่ตอนหลังว่า

Toni pushed it to a point where we were forced to prepare all the trial affidavits and documents. It was ultimately only days before the trial was scheduled to start, on 19 October 2016, that further compromises were made by both sides and agreement on every point was reached.

If, when and how the ashes should be provided to the children was the only issue in the end that was impossible to resolve and unless a compromise was able to be reached, would have meant the derailing of the entire settlement and the full two day hearing proceed.(อีเมล, 14 ก.พ 2017)

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

Mr Handsome returns

Mr Handsome เป็นผู้ชายไทยเกย์หนุ่มที่ เคยเขียนโพสต์ให้บล็อก Bangkok of the Mind หรือ BOTM2 (เป็นรุ่นพี่ของบล็อกฉบับนี้) เป็ นประจำหลายปีก่อน...

โพส์ตนิยม